วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557




เจแปนนีส บ๊อบเทล เป็นแมวรักษาการณ์ของไฮโซญี่ปุ่นมาหลายศตวรรษ โดยในปี 1602 มีคำสั่งจากทางการให้ผู้ครอบครองนำแมวของตัวเองไปปล่อยในพื้นที่ชนบทเพื่อทำ สงครามปราบหนูที่เป็นศัตรูตัวฉกาจต่ออุตสาหกรรมใหม่ที่กำลังรุ่งเรืองและทำ รายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล นับจากนั้นมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในตำนานและประวัติศาสตร์ รวมทั้งศิลปะของญี่ปุ่น โดยสื่อความหมายถึงการนำความโชคดีมีชัย (นี่เองจึงเป็นสาเหตุให้เจแปนนีส บ๊อบเทล เป็นแมวต้นแบบของแมวนางกวักของญี่ปุ่นนั่นเองล่ะค่ะ) ต่อมานักเพาะพันธุ์แมวชาวอเมริกันนำเจ้าหางกุดมาจากญี่ปุ่นในราวปี 1968 จากนั้นอีก 10 ปีก็ได้รับการประกาศเป็นพันธุ์มาตรฐานและเป็นที่นิยม

แมวประจำชนชาติญี่ปุ่นและเป็นสัตว์นำโชคเพราะมีคนทำเป็นตุ๊กตา ภาพเขียน รูปแกะสลักไว้ติดกับร้านค้าบ้านเรือน ในญี่ปุ่นจะเรียกแมวพันธุ์นี้ว่า มิเก (Mi-Ke) แปลว่า สามสี
เจแปนนีส บ๊อบเทล หรือ แมวหางกุดญี่ปุ่น (Japanese Bobtail) นั่นเองค่ะ น้องแมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่น่ารัก เป็นมิตร มีเสน่ห์ และร่าเริงที่สุดพันธุ์หนึ่ง ชอบเล่น ชอบคาบของไว้ในปากเดินไปมา รวมทั้งชอบตะกุยน้ำเล่น มีเสียงร้องสดใสนุ่มนวลชวนหลงใหลอีกด้วยล่ะค่ะ

 ลักษณะประจำสายพันธุ์ของ เจแปนนีส บ๊อบเทล พวกเขาเป็นแมว ขนาดกลาง มีมัดกล้ามเนื้อให้เห็นชัดเจน ขายาวเรียว แต่มักพบว่าขาหลังยาวกว่าขาหน้า ส่วนหางที่สั้นกุดเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมหรือมิวเตชั่น มีขนหนาขึ้นปกคลุมเป็นแพสวยงามเหมือนหางกระต่าย (ดูกระปุกลุกน่ารักมาก) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตก ต่างกัน โดยทั่วไปแล้วมีความยาวราว 1-3 นิ้ว หัวเป็นรูปสามเหลี่ยม กระดูกแก้มเป็นสันนูน จมูกยาว ตารูปไข่สีเหลือง ไม่ค่อยพบตาสีฟ้า มีทั้งขนยาวและขนสั้น สีขนที่ฮิตที่สุดคือสามสี (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า มิ-เกะ)
 สำหรับข้อเสียของเจ้าแมว เจแปนนีส บ๊อบเทล นั้น ก็จะอยู่ที่หางกุด ๆ ของพวกเขานั่นล่ะค่ะ เพราะมันเป็นอุปสรรคในการวิ่ง และยังทำให้สมดุลร่างกายแย่กว่าแมวพันธุ์อื่นอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วยล่ะค่ะ ... แต่สำหรับคนที่ชอบเลี้ยงแมวระบบปิด ให้น้องเหมียวคลอเคลียอยู่กับตัวเองตลอดเวลา ชลลี่ว่าเจแปนนีส บ๊อบเทล ตอบโจทย์เลยล่ะค่ะ ขอบอก!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น