แมวเปอร์เซีย
แมวเปอร์เซีย(Persian Cats)
ราชินีแมวเจ้าเสน่ห์นี้เป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดที่แถบเปอร์เซียในสมัยก่อน
ซึ่งปัจจุบันก็คือประเทศตุรกีและอิหร่านในปัจจุบันนั่นเอง
โดยหลักฐานที่ระบุได้ว่าแมวเปอร์เซียถือกำเนิดที่นั่นก็คือบันทึกลายลักษณ์
อักษรเกี่ยวกับที่มาของแมวเปอร์เซีย หรือแมวเปอร์เซียน
ซึ่งในลายลักษณ์อักษรนั้นพูดถึง พ่อค้าทะเลทราย
แถวๆแถบตะวันตกของตุรกีและอิหร่าน พูดถึงการขนของมาค้า เช่น การขนเครื่องเทศมาขาย ขนอัญมณีมาค้า ละ
ในลายลักษณ์อักษรกล่าวว่าบางครั้งก็มีแมวขนยาวๆติดมาด้วย
แมวขนยาวนั้นถูกซื้อโดยกะลาสี
และหลังจากนั้นก็พาแมวติดไปกับเรือบรรทุกสินค้ามุ่งหน้าเข้าสู่ทวีปยุโรปและ
เวลาผ่านไปหลายปีต่อมาแมวพันธ์นั้นก็ได้เป็นที่รู้จักกันในชื่อสายพันธุ์ว่า
เตอร์กิส แองโกร่า (Turkish Angora)
เมื่อราวๆปลายศตวรรษที่ 19 แมวพันธุ์เตอร์กิส แองโกร่า (Turkish Angora)
ได้ถูกชาวอังกฤษกลุ่มผู้ชื่นชอบนำแมวมาผสมพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์กลายเป็น
แมวที่มีขนฟู ยาว และพองกว่าเดิม
และจนได้รับการยอมรับและได้จดทะเบียนขึ้นเป็นแมวของประเทศอังกฤษโดยใช้ชื่อ
ว่า Longhair
เนื่องจากเป็นแมวขนยาวและเป็นชื่อภาษาอังฤษที่แปลว่าขนยาว
ไม่ใช่แค่อังกฤษประเทศเดียวที่เลี้ยงแมวสายพันธ์นี้ หลายปีต่อมาพบว่า
แมวสายพันธุ์นี้ได้ถูกนำไปเลี้ยงที่แถวทางยุโรปและอเมริกาด้วย
ซึ่งคนอเมริกานั้นจะเรียกแมวสายพันธุ์นี้ว่า แมว Persian
ลักษณะสายพันธุ์ของแมวเปอร์เซีย
แมว
เปอร์เซีย มีรูปร่างขนาดกลางถึงใหญ่ ดูแข็งแรง เป็นแมวที่มีกระดูกใหญ่
ส่วนของหัวและหน้าของน้องแมวเปอร์เซียนั้นจะกลมๆ หน้าผากโหนกๆ ดวงตาของน้องแมวเปอร์เซียจะกลมโต
ระยะห่างระหว่างตาจะมีร่องของจมูกเป็นจุดหัก
เวลามองจากทางด้านข้างจะเป็นจุดหักอย่างเห็นได้ชัด
ถ้ามองจากทางด้านหน้าจะมีขีดๆ อยู่ระหว่างดวงตา
ลักษณะ
ที่ตรงตามมาตรฐานของแมวเปอร์เซีย โครงสร้างตามลำตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย
มีจมูกอยู่ในระดับเดียวกับตา ในส่วนของหูจะมีขนาดเล็กส่วนปลายของหูกลมมน
หางสั้นไม่หัก ไม่งอ ขนฟูยาว เป็นแมวที่เดินสง่างาม
แมวเปอร์เซียในสมัยก่อนนั้นต่างกับในสมัยนี้อย่างมาก
โดยเฉพาะรูปร่างที่ดูสั้นขึ้น เปอร์เซียสมัยก่อนจะมีรูปร่างใหญ่ ขนยาวขึ้น
ฟูมากขึ้น หน้าตาถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้มีลักษณะต่างกัน เช่น หน้าตุ๊กตา
หน้าบี้ ซึ่งลักษณะของแมวเปอร์เซียหน้าบี้นั้นจะมีลักษณธจมูกสั้นมากและหักมากขึ้น
แมวเปอร์เซียถูกแบ่งออกเป็น 7 ลักษณะ โดยแบ่งตามสีและลักษณธทั่วไปเป็นเกณฑ์ในการแบ่ง
-Solid colour ขนทั้งตัวจะเป็นสีเรียบสีเสียว ไม่มีสีอื่นมาปะปน สีเท่าๆกัน ไม่มีด่างนั่นเอง อย่างเช่น White แมวเปอร์เซียที่มีขนขาวบริสุทธ์ทั้งตัว,Black ขนสีดำทั้งตัว ดำสนิท,Blue ขนจะมีสีเทาเข้ม,Cream ขนสีครีมเข้ม,Red ขนสีออกแดงเข้มๆ เสมอกัน,lilac สีลาเวนเดอร์,chocolate ขนสีน้ำตาลช๊อกโกแลต
-Tabby จะมีลวดลายที่เห็นกันบ่อยๆก็จะเป็น 2 แบบ คือแบบClassic และแบบ Mackerel
-Sliver & Golden ตาจะเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมน้ำเงินเท่านั้น หรือที่เราเรียกกันว่าแมวชินชิล่านั่นเอง
-Calico & Bi-Color ขนจะมีสีทั่วๆไป
ส่วนตาจะเป็นสีทองแดง บางตัวมีลักษณธตา 2 สี ข้างหนึ่งสีฟ้า
อีกข้างหนึ่งเป็นสีทองแดง ความเข้มของสีตาทั้งสองข้างจะเท่าๆกัน
-Shade&Smoke จะมีลักษณะสีขนแตกต่างกันออกไป 3 แบบ คือแบบ Shell ที่ปลายๆขนจะมีสีเล็กน้อยแบบ shade จะมีส่วนที่เป็นสีมากกว่า ส่วนแบบ smoke สีจะมากกว่าแบบ Shade
-Himalayan แมวเปอร์เซียแต่ก่นจะไม่มีสีนี้
สีนี้ได้มาจากการผสมของแมวเปอร์เซียกับแมวพันธ์ไทยวิเชียรมาศมีลักษณะเป็นสี
แต้มตามจุดต่างๆตามตำแหน่งเดียวกับวิเชียรมาศ เช่น
มีสีเข้มตรงหูสองข้างที่ทำให้หน้าเหมือนครอบหน้ากากไว้เข้มที่บริเวณขาทั้ง 4
ขา เข้มที่หางเป็นต้น ส่วนดวงตานั้นจะมีสีฟ้าสดใส
-Parti-colour เกิดขึ้นได้ในเฉพาะแมวเปอร์เซียเพศเมียเท่านั้น อันสืบเนื่องมาจากการสืบทอดทางโครโมโซม
นิสัยของแมวเปอร์เซีย
ในแมวเปอร์เซียเพศผู้ ใน
ช่วงที่น้องเปอร์เซียเพศผู้ยังเด็กๆอยู่นั้นจะมีนิสัยซุกซน ขี้เล่น
ชอบการปีนป่าย ชอบหาสิ่งของมากัดเล่น
แต่พอโตขึ้นเป็นวัยรุ่นนิสัยจะเปลี่ยนไป คือจะเริ่มมีโลกส่วนตัวสูง
รักการอยู่คนเดียว
หากถึงช่วงเวลาผสมพันธุ์แล้วอาจจะมีการหนีออกบ้านไปหาน้องแมวตัวเมียเพื่อ
ผสมพันธ์หากเรากักขังไว้น้องจะมีอาการหงุดหงิด ร้องเสียงดัง
อาจจะฉี่เพื่อให้เพศเมียได้กลิ่นและเป็นการสร้างอาณาจักรด้วย
ทางออกที่ดีก็คือ ถ้าไม่ทำหมันก็จะต้องหาน้องแมวเพศเมียมาให้น้องทับ
อาการนี้เรียกว่า ฮีท
ใน
แมวเปอร์เซียเพศเมีย โดยทั่วไปจะว่านอนสอนง่ายกว่าแมวเพศผู้
จะมีนิสัยเรียบร้อย ขี้อ้อน ขี้ประจบ จะชอบคลอเคลียเจ้าของ
ในบางตัวจะมีโลก่วนตัวสูงตั้งแต่เด็กจนโต
หรือขี้เล่นมากจนทำให้เจ้าของเหนื่อย
เมื่อโตเป็นสาวถึงเวลาผสมพันธ์น้องแมเปอร์เซียเพศเมียจะร้องเหมือนตัวผู้แต่
อาจจะไม่ดุร้ายเท่าตัวผู้
บางครั้งก็จะฉี่หรือถ่ายไว้ให้ตัวผู้ได้กลิ่นเป็นการเชื้อเชิญตัวผู้
บางทีก็จะนอนหงายดิ้นไปดิ้นมา เจ้าของอาจแก้ปัญหาได้โดยทำหมัน
หรืออาจหาตัวผู้มาผสมพันธุ์แล้วแต่เจ้าของจะพอใจ
โดยทั่วไปแมวจะเป็นฮีทในช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป
แต่ช่วงอายุที่เหมาะกับการตั้งท้องคือ 1 ปีขึ้นไป และตั้งท้องประมาณ 9
สัปดาห์
แหล่งข้อมูล www.petinthai.com